MG EP ของใช้ของคนที่ใช่!

รถยนต์คันนี้ มีดีไม่ธรรมดาเลยล่ะท่านผู้ชมที่เคารพ เพราะภายใต้ชื่อรถยนต์ MG มันก็เท่แล้ว

เนื่องจากรถยนต์จากอะคันตุกะต่างแดนมาจากแดนมังกรสะท้อนภาพลักษณ์แผ่นดินใหญ่กว่า 19 เท่าของประเทศไทย

คือยี่ห้อนี้ไม่ธรรมดา เพราะก่อตั้งตั้งแต่ปี ค.ศ. 1924 โดยชื่อ MG นั้นย่อมาจาก Morris Garages หรืออู่ซ่อมรถของช่างมอริสนั่นเอง

เกือบๆ จะ 100 ปีเข้าให้ ใจก็เลยตั้งมั่นบากบั่น ข้ามน้ำข้ามทะเลมาเทใจให้ประเทศไทยในปี คศ 2013

แหมๆๆๆๆ 

แค่นั้นยังไม่พอ รถหลายรุ่น ที่ออกมามักจะโดนใจเหล่าสาวก รถใหม่ป้ายแดง ยี่ห้อใหม่ไฉไลใครว่าอะไรไม่สน

เอาเดี๋ยวจะยืดยาว สาวๆ จะนั่งคอย พลอยมาดูเจ้ารถใหม่คันนี้กันดีกว่า

เค้าว่ามันจะช่วยสิ่งแวดล้อมได้ ได้ไง ได้ใจ หรือได้อะไร ทำไมรถหน้าตาแปลก

MG EP รถยนต์ Station Wagon ที่ไม่เหมือนคนอื่น

ตั้งแต่กระจังหน้า ที่ไม่มีช่องรับอากาศขนาดใหญ่ๆ เพื่อระบายความร้อนเหมือนรถอื่นๆ

เหตุก็เพราะเนื่องด้วยช่วยกันกับระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100%

เน้นนะครับว่า 100% ดังนั้น กระนั้นแล้ว ก็คงไม่ต้องระบายความร้อนอะไรกันให้มากมายก่ายกองเหมือนกับรถยนต์ทั่วไป

และเจ้า MG EP ที่ตัวย่อรุ่น อีพี ข้างหลังน่าจะมากจาก อิเลคทริค พาวเวอร์ คือรถที่ตอกย้ำการใช้พลังงานไฟฟ้าล้วนๆ แบบให้โลกไร้ควันพิษกันเลย

แต่ๆๆๆๆ เดี๋ยวก่อน 

รถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยเหมาะสมแล้วหรือยัง

คำตอบคือรถน่ะพร้อมตั้งนานแล้ว หลายยี่ห้อด้วย รวมทั้ง MG

แต่ให้ตาย ระบบสาธารณูปโภคบ้านเรา ที่จะให้ไปชาร์จไฟที่ไหนก็ได้ เมื่อแบตหมด 

คือ พูดง่ายๆ มือถือยังมีพาวเวอร์แบงค์ นายธนาคารที่มีกำลังนี่ล่ะ แต่รถยนต์ยังไม่มีนี่ รถไฟหมดที่ไหน จะไปซื้อมาเติมแบบน้ำมันก็หาใช่ที่

การนี้ MG EP ก็เลยแบตมาให้กำลังไฟเพื่อวิ่งได้กว่า 300 กิโลเมตร โอ้แม่เจ้า ยาวไกลอะไรกันขนาดนั้น

แล้วเจ้าพระเอกหน้าใหม่ใน WHAT’S NEW ครั้งนี้ มีดีที่ 4 องค์ประกอบหลัก

– ไม่ว่าจะเป็นมิติตัวถังและพื้นที่การใช้งาน นั่งสบาย จุได้ทั้งคนและสัมภาระ ก็เป็นรถแวนนี่ครับ แน่นอนว่าใช้งานได้เอนกประสงค์แน่นนอน

– ต่อมาอันดับสองเน้นมากๆ คือ ความสะดวกสบายและระบบความปลอดภัย อันนี้ ก็ใส่ ระบบป้องกันก่อนการชนเข้าไป เพื่อให้เกิดการชนน้อยที่สุดที่จะน้อยได้

– และสามคือ สมรรถนะ อย่างที่บอกว่าเป็นรถไฟฟ้าล้วนๆ ไม่ต้องชวนกันเติมน้ำมัน แต่วิ่งได้มากกว่า 300 กิโลเมตร 

– กับสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด สาวสวยดูการตลาดของ MG บอกว่าต้นทุนในการเป็นเจ้าของที่ต่ำ  งงล่สิ งงกันไปใหม่ คือเค้าบอกว่า มันเป็นการเซฟคอร์ดเซฟงบทั้งค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและค่าบำรุงรักษา ที่ต่ำเตี้ยเลี่ยดิน กันเลยทีเดียว เดี๋ยวไม่แน่ใจไปลองขับกันได้ในงานมหกรรมยานยนต์ วันที่ 1-13 ธันวาคมที่เมืองทองธานี

ก่อนหน้านี้มี MG ZS EV อีวี คือ อิเลคทริควิฮิเคิล รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ในรูปแบบรถยนต์ SUV สู่ตลาดเมืองไทย

แถมมี MG HS PHEV รถยนต์ที่ใช้ชื่อย่อจากคำว่า Plug-in Hybrid  อิเลคทริควิฮิเคิล 

นี่มา MG EP ซึ่งเจ้าตัว อิเลคทริคพาวเวอร์ตัวนี้ ทางผู้บริหารเอ็มจี ก็หมายมั่นปั้นมือให้คนกรุงใช้กันมากๆ เพราะคุ้มสุดๆ หยุดราคาที่เท่าไหร่เดี๋ยวมีเซอร์ไพร์สใสๆ วัยรุ่นชอบ

รถนี่บอกเลย นั่งได้ 5คนแล้ว ยังจุของได้ถึง 1,456 ลิตร นี่พี่ๆ จะขนของย้ายหอ หนีเจ้าหนี้กันก็ยังได้

แล้วความสะดวกสบายนี่สำคัญเพราะวันๆ บางคนอยู่แต่ในรถ หน้าจอ Touchscreen ขนาด 8 นิ้ว ดูหนัง ฟังเพลง นักเลงลิเก ยูเอสบี ไอพอด ไอแพด ไอโฟนก็ใส่เข้าไปสินะ

และที่กล่าวมาทั้งหมด จะไม่ดีไม่เด่นเลย ถ้าเครื่องยนต์ ไม่สามารถใช้งานได้จริง รถไฟฟ้าหลายยี่ห้อ ที่เข้ามาทำตลาดในไทย ใส่เทคฯเหนือกว่ารถกอล์ฟหน่อยนึง

แต่ MG EP ไม่ใช่นะคร้าบ

เพราะเจ้า MG EP ตัวนี้มีความเป็นรถใช้งานจริงๆ ไม่ใช่ของเล่นเด็ก เอ้ยของเด็กเล่น

สมรรถนะจากแบตเตอรี่ที่มีความจุขนาด 50.3 kWh ทำให้วิ่งได้ไกลถึง 380 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง เน้นนะครับ 380 กิโลเมตร

วิ่งจากกรุงเทพฯทะลุพัทยา ลงใต้ก็ทะลุหัวหิน ขับไปถึงก็จอดชาร์จที่โรงแรม แล้วก็พักผ่อนในวันเสาร์อาทิตย์ เพราะวันธรรมดาไม่ต้องห่วงวิ่งในเมืองแค่ร้อยกว่าโลก็เก่งแระ

ยิ่งหลายคนบอกรถติดช่วงนี้ ก็ไม่ต้องกลัวควันพิษรถเราจะไปเติมให้เค้ากันอีก พีเอ็ม สองจุดห้า ก็ไม่มี

MG EP นอกจากจะช่วยลดมลพิษ สะกิดใจให้กับโลกแล้ว ยังให้เรื่องความปลอดภัยมาครบ เพราะรถไฟฟ้า สมัยนี้ วิ่งเรื่องกันแล้ว เร็วพอๆ กับรถยนต์ใช้น้ำมันล่ะคุณพี่ คุณพี่เลยต้องระวังเป็นพิเศษ ด้วยเหตุนี้ อีพี คันนี้เลยมีตั้งแต่…

• ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน 

• ระบบกระจายแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ 

• ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ 

• ระบบเบรกมือไฟฟ้า 

• ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง 

• ระบบควบคุมการทรงตัว 

• ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง 

• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล 

• ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน 

• ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน 

• ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง 

แค่พูด แค่ฟัง ก็เหนื่อยแระ เพราะยังมีอีกเพี๊ยบครี่นะน้อง

ที่ต้องมีอะไรๆ เยอะแยะเพราะว่าสมรรถนะไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เชียว

เพราะฝังม้าไว้ใต้ฝากระโปรงถึง 163 ตัว แรงบิดอีก 260 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 ได้ภายใน 8.8 วินาที 

และที่สำคัญเราขับกันอยู่ 120 กม/ชม ก็ว่าเร็วแล้ว เจ้านี่ทำได้ถึง 185 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่ก็อย่าไปลองเลยค่ะหนูรู้ว่าผิดกฎหมาย 

มาเล่นลูกเล่นอย่างโหมดการขับขี่ดีฝ่า สนุกดอทคอมด้วย 3 รูปแบบโดนใจกับ โหมด  Normal  Eco และ  Sport 

ทีนี้สงสัยว่า MG EP ชาร์จไฟนานมั๊ย เหมือนเราอยากจะรู้มือถือรุ่นนี้ชาร์จนานมั๊ย เก็บไฟไว้เล่นเน็ทนานมั๊ย

ขอบอกเลย EP คันนี้ สามารถชาร์จไฟฟ้าแบบ  Quick Charge ในเวลาแค่ 40 นาที แต่จะได้แค่ 80% เท่านั้นนะครับเฮีย

ถ้าจะชาร์จแบบ 100% เลยก็ต้องชาร์จธรรมดา 7 ชั่วโมง 15 นาที ก็ทิ้งไว้กลางคืนตอนนอนหลับหรือหลับนอนกันก็ได้แล้ว

แถมเอ็มจี คำนวณมาให้เสร็จสรรพ โดยการชาร์จไฟบ้านกับรถคันนี้จาก 0%-100% มีค่าใช้จ่ายไฟฟ้าประมาณ 200 บาท วิ่งได้ 380 โล แม่เจ้าไม่ซื้อ ไม่หา ไม่รู้จะว่าไงแล้ว กิโลละไม่ถึง1บาท  

ทีนี้ใครจะว่าว่าเป็นข้อด้อย ข้อเสีย ข้อไม่ดี ก็อาจจะเป็นที่การตกแต่งภายในด้วยสีดำทุกรุ่น ของ อีพี รุ่นนี้ แต่เรื่องนี้พี่ไทยแก้ได้ จะภายใน เบาะ พวงมาลัย หัวเกียร์ คอนโซล สีอะไรก็ได้ตามใจ เปลี่ยนวัสดุได้ทุกชิ้น แค่นี้จะเอาอะไรอี๊ก

 

Related posts

Visit Us On FacebookVisit Us On TwitterVisit Us On YoutubeCheck Our Feed